เป็นสาหร่ายในกลุ่มสาหร่ายสีเขียว
มีขนาดเล็กมากเมื่อส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบว่า เป็นสาหร่ายเซลล์เดี่ยว
ลักษณะกลม รี หรือรูปไข่สีเขียว เพาะเลี้ยงในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน
นิยมนำมาบริโภคในรูปแบบของอาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ
ชาวญี่ปุ่นยังใช้เติมลงไปในชา ซุป นม น้ำผลไม้ บะหมี่ คุกกี้ เค้ก และไอศกรีม
คลอเรลลา จัดเป็นแหล่งของโปรตีน วิตามิน
และเกลือแร่ โดยมีโปรตีนที่อยู่ในรูปของกรดนิวคลีอิก คือ อาร์ เอ็น เอ สูงมาก
แต่เดิมมีความเชื่อว่าปลาซาร์ดีน มี อาร์ เอ็น เอ มากที่สุด นักวิทยาศาสตร์พบว่า
อาร์ เอ็น เอ ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่า มีความอ่อนเยาว์
และช่วยชะลอความชราได้ ผลการวิจัย พบว่า อาร์ เอ็น เอ ในคลอเรลลา ยังประกอบด้วย กรดอะมิโน จำเป็นที่ร่างกายสร้างขึ้นมาใช้เองไม่ได้ ต้องได้รับจากการบริโภคของพืช
หรือสัตว์ เท่านั้นอยู่ถึง 8 ชนิด โปรตีนจากคลอเรลลา จึงมีคุณภาพเทียบเท่ากับโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์
แต่จะมีเมไทโอนีน ต่ำกว่า
นอกจากนี้ คลอเรลลา ยังมีวิตามินหลากหลาย คือ วิตามินซี, เบตา-แคโรทีน (ซึ่งให้วิตามิน เอ),
บี1, บี2, บี6, บี12, ไนอาซิน, กรดแพนโทเทนิค,
กรดโฟลิก, ไบโอติน, โคลีน,
อินโนซิทอล, พีเอบีเอ, วิตามินอี
และ วิตามินเค ส่วนเกลือแร่ที่มีอยู่ได้แก่
ฟอสฟอรัส, โปแตสเซียม, แมกนีเซียม,
กำมะถัน, เหล็ก, แคลเซียม,
แมงกานีส, ทองแดง, สังกะสี,
ไอโอดีน และ โคบอลต์ รวมทั้งมีกรดไขมันไลโปอิก
มีงานวิจัยสนับสนุนสรรพคุณในด้านต่าง
ๆ ของคลอเรลลา เช่น
เป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอด กระตุ้นการเจริญเติบโต เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย
ชะลอความชรา ป้องกันอนุมูลอิสระ ล้างพิษในระบบทางเดินอาหาร
เนื่องจากมีองค์ประกอบของสารอาหารที่มีประโยชน์สูง วงการธรรมชาติบำบัดจึงนิยม นำคลอเรลลาไปใช้ใน การเสริมภูมิคุ้มกัน สมานแผล ต้านสารพิษต่าง ๆ รอบตัว ช่วยย่อย ปรับการทำงานของกระเพาะอาหาร
และลำไส้ ใช้กระตุ้นให้เกิดการเจริญเติบโต และช่วยสร้างเนื้อเยื่อในร่างกาย
ชะลอความชรา ตลอดจนป้องกันอันตรายจากกัมมันตภาพรังสี
ที่มา: สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) www.tistr.or.th
Tips!
6. เหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และเป็นตัวนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย มีสังกะสี ช่วยสร้างสมรรถภาพของสมองให้ร่างกายฟื้นไข้เร็ว
7. ไฟเบอร์ ช่วยลดคลอเรสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร และการดูดซึมอาหารของร่างกาย
1. สาร ซี จี เอฟ ค้นพบใน สาหร่ายคลอเรลลา เท่านั้น
ให้พลังงานมหาศาลแก่มนุษย์ สร้างความแข็งแกร่งให้เซลล์ เสริมสร้างระบบต้านทานโรค
และกระตุ้นร่างกายให้มีชีวิตชีวา
2. โปรตีน มีครบทุกชนิดที่จำเป็น สูง 60% 3 เท่าของโปรตีนจากเนื้อสัตว์
เสริ้มสร้างซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
3. มี เกลือแร่ แคลเซียม ทองแดง เหล็ก แมกนีเซียม โปรตัสเซียม
ฟอสฟอรัส โซเดียม สังกะสี วตามิน เบต้าแคโรทีน วิตามิน A D E K B1 B2 6 12
C
4. วิตามินเอ และสารเบต้าคาโรทีน เป็นวิตามินเอ ย่อยง่าย บำรงสายตา
ยับยั้งเซล์มะเร็ง
5. ไนอาซีน ช่วยบำรุงโรคจิตประสาทโซเพรเนีย
ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย บำบัดโรคหัวใจ6. เหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และเป็นตัวนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย มีสังกะสี ช่วยสร้างสมรรถภาพของสมองให้ร่างกายฟื้นไข้เร็ว
7. ไฟเบอร์ ช่วยลดคลอเรสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร และการดูดซึมอาหารของร่างกาย
ผนังเซลล์คลอเรลลา ช่วยต่อต้านมะเร็ง
และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน มีคุณสมบัติพิเศษในการกำจัดสารไฮโดรคาร์บอน
และสารที่เป็นพิษออกจากร่างกายมนุษย์ได้
สรุปประโยชน์ของสาหร่ายคลอเรลลา
1. สาหร่ายคลอเรลลา
(Chlorella) เป็นพืชน้ำที่มีคลอโรฟิลสูงสุด
ช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น
และเป็นแหล่งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่
2. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เบต้าแคโรทีน และวิตามินบีคอมเพล็กซ์
3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อต้านมะเร็งชนิดต่าง ๆ ไวรัส เนื้องอก
4. ขจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย ได้แก่ สารปรอท ตะกั่ว ดีดีที
5. ลดกรดในร่างกาย ช่วยบำบัดกรดไหลย้อยกลับ
6. ช่วยระบบการย่อยอาหาร
7. บำรุงผิวพรรณ สดใส ชะลอความชรา
2. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เบต้าแคโรทีน และวิตามินบีคอมเพล็กซ์
3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อต้านมะเร็งชนิดต่าง ๆ ไวรัส เนื้องอก
4. ขจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย ได้แก่ สารปรอท ตะกั่ว ดีดีที
5. ลดกรดในร่างกาย ช่วยบำบัดกรดไหลย้อยกลับ
6. ช่วยระบบการย่อยอาหาร
7. บำรุงผิวพรรณ สดใส ชะลอความชรา
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการดังกล่าวทำให้
สาหร่ายคลอเรลล่า เป็นส่วนประกอบสำคัญเป็นอย่างยิ่งใน ผักเม็ด 6 สายพันธุ์ หรือ
คลอโรฟิลลิน ซึ่งเป็นแหล่งรวมสารอาหารคุณภาพ
และมีประโยชน์ต่อการดูแลร่างกายอย่างครบครัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น